การประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรม

จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และพัฒนาองค์กรให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้หลักบรรษัทภิบาล โดยจะส่งมอบสินค้าและบริการที่ดี โดยยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลางด้วยการคิดที่มากกว่า และพันธกิจในการใส่ใจรายละเอียดความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ด้าน ด้วยการออกแบบและพัฒนาโครงการอย่างสร้างสรรค์เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า รวมทั้งมุ่งเน้นที่จะพัฒนาบุคลากร และองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับ คู่ค้า ลูกค้า ผุ้ถือหุ้น พันธมิตร พนักงาน และสังคม อันทำให้เกิดเป็นนโยบายที่มุ่งเน้นในด้านการพัฒนาในทุกๆด้านอย่างยั่งยืน ดังนี้

การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม

แม้ว่าบริษัทฯ จะมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านรายได้ และขนาดขององค์กร แต่ ก็ไม่ละเลยที่จะคำนึงถึงความสำคัญของบุคลากร การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรมในทุกๆด้าน เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีอิสระในการให้ความเห็นโดยปราศจากการแทรกแซง มีการกำหนดแนวปฏิบัติการจ้างงาน การจ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิแรงงานอย่างเท่าและเป็นธรรม โดยกำหนดหลักการในการสรรหา คัดเลือกเพื่อว่าจ้างพนักงานอย่างเป็นธรรม ดังนี้

  • 1. การสรรหาการว่าจ้างพนักงานโดยพิจารณาถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับองค์กรและตำแหน่งงาน

    ภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในแบบ Origin Culture ที่มุ่งเน้นความเป็น Ownership , Professional & Friendly โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ หรือศาสนา แต่ให้ความสำคัญกับศักยภาพในการทำงานของคน โดยบริษัทฯ ยังคงไว้ซึ่งกระบวนการในการคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ซึ่งได้แก่ การจัดให้มีการทดสอบความรู้ตามตำแหน่งงานเพื่อวัดความรู้ความสามารถของผู้สมัคร การวัดทัศนคติในการทำงาน การวัดความถนัดในการทำงานในแต่ละตำแหน่งงาน เพื่อมุ่งเน้นให้พนักงานทำงานอย่างประสบความสำเร็จและมีความสุข กล่าวคือได้ทำงานที่อยากทำและทำได้ดีบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับกระบวนการสัมภาษณ์คัดเลือกเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับบุคลากรที่เหมาะสมกับองค์กรมาทำร่วมเป็นทีมงาน โดยการใช้เครื่องมือ Competency Based Interview มาเป็นแนวทางในการสัมภาษณ์เพื่อค้นหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด โดยบริษัทฯ เชื่อว่าการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เป็นผลดีกับบริษัทฯ เท่านั้น แต่เป็นการไม่ทำให้ผู้สมัครที่คุณสมบัติไม่ตรงต้องเสียเวลากับการได้ทำงานที่ไม่ตรงกับความสามารถของตนเองอีกด้วย

  • 2. การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพนักงานในแต่ละกลุ่ม

    ให้สามารถปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันแบบ Win – Win ทั้งองค์กรและพนักงาน ซึ่งในปี 2562 บริษัทฯได้พัฒนาโปรแกรม E-Learning เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถในการทำงานได้แบบ Anytime , Anywhere โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้

    • การฝึกอบรมสำหรับพนักงานใหม่ บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีการอบรมสำหรับพนักงานใหม่ เพื่อให้พนักงานใหม่ได้เข้าใจถึงวัฒนธรรมองค์กร ข้อมูลพื้นฐานขององค์กร และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าใจในธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงได้ทราบข้อมูลทางด้านสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ ที่พนักงานจะได้รับ เพื่อให้พนักงานสามารถเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในหลักสูตร Onboard Training Program และจัดให้พนักงานใหม่เข้าร่วมโครงการ Origin School ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพาพนักงานเข้าใหม่ไปศึกษาดูงานในโครงการต่างๆของบริษัทฯ โดยตลอดระยะเวลาในการศึกษาดูงาน พนักงานจะได้รับคำแนะนำจากทีมผู้จัดโครงการ และทีมผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้พนักงานเข้าใจถึงธุรกิจ และสภาพแวดล้อมในการทำงานทั้งในฝ่ายของตนเอง และฝ่ายอื่นๆ มากขึ้น
    • การฝึกอบรมสำหรับพนักงานทุกคน บริษัทฯ จัดให้มีการสำรวจความจำเป็นในการฝึกอบรมและพัฒนา เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้มาจัดทำแผนการพัฒนาสู่ความเป็นมืออาชีพในงาน (Professional Development Program) เพื่อนำไปใช้ในการอบรมพนักงานรายบุคคล (Individual Development Program) ให้สามารถมีโอกาสสร้างผลงานให้สำเร็จได้ตามเป้าหมายได้อย่างเท่าเทียมกันตามแต่ความมุ่งมั่นและทุ่มเทที่แต่ละคนมีในการทำงาน
    • การฝึกอบรมสำหรับพนักงานในระดับบริหาร บริษัทฯ คำนึงถึงความสำคัญของบทบาทความรับผิดชอบของพนักงานในระดับบริหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง จึงได้มีการกำหนดแผนการพัฒนาภายใต้โปรแกรม Origin Leadership Development โดยได้จัดทำโปรแกรมสำหรับผู้บริหาร 3 ระดับ ดังนี้
      • หลักสูตร Coach / Mentor & Situational Leadership สำหรับผู้บริหารระดับต้น ซึ่งได้แก่ ระดับ Manager ถึง Assistant Vice President
      • หลักสูตร Leadership as a Change Agent สำหรับผู้บริหารระดับกลาง ซึ่งได้แก่ ระดับ Vice President ถึง Senior Vice President
      • หลักสูตร Visionary Leadership สำหรับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งได้แก่ ระดับ Executive Vice President ขึ้นไป
    • พนักงานกลุ่ม Talent & Successor บริษัทฯ ได้กำหนดแผนในการพัฒนาพนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานและพฤติกรรมในการทำงานในระดับดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง จะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมหลักสูตรการพัฒนาเพื่อเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงต่อไปในอนาคต
  • 3. การจ่ายผลตอบแทนในการทำงานให้เหมาะสมกับผลงานและความสามารถ

    โดยเริ่มต้นที่ไม่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด รวมทั้งมีการกำหนดโครงสร้างเงินเดือนเพื่อให้สอดคล้องกับความรู้ความสามารถ และผลการปฏิบัติงานของพนักงานอีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับสถาบันที่ทำการสำรวจอัตราค่าจ้างค่าตอบแทนเป็นประจำทุกปีเพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างเงินเดือนเหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดให้มีการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราเงินเดือนประจำปีและโบนัสให้แก่พนักงานปีละ 2 ครั้ง (ในเดือนธันวาคมและมีนาคม) โดยนำระบบ Balanced Scorecard และ Key Performance Indicator (KPI) เพื่อความชัดเจนในเป้าหมายและผลงานของพนักงานแต่ละคน รวมถึงการประเมินผล 360 องศาตาม Core Competency ซึ่งเป็นวัฒนธรรมหลักขององค์กร มาใช้เป็นเครื่องมือในการพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานของพนักงาน หน่วยงานและผลประกอบการของบริษัทฯตามหลักการจ่ายผลตอบแทนแบบ Performance Based Pay เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน จึงได้จัดให้มีสวัสดิการพื้นฐาน และสวัสดิการเพิ่มเติมให้กับพนักงาน ดังนี้

    กลุ่มที่ 1 สวัสดิการที่เป็นตัวเงิน
    • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีวัตถุประสงค์เพื่อการออมและสร้างหลักประกันให้แก่พนักงานและครอบครัว โดยเงินสะสมในส่วนของพนักงานจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจและอายุงานของพนักงาน มีอัตราเงินสะสมของพนักงานสูงสุดไม่เกิน 15% และอัตราเงินสมทบของบริษัทฯ อยู่ระหว่าง 3% - 7%
    • การจัดสรรหุ้น Employee Stock Ownership Plan หรือ ESOP ให้กับพนักงานแต่ละกลุ่มตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อเป็นการตอบแทนพนักงานที่ปฏิบัติเพื่อความสำเร็จขององค์กร และเพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนของพนักงานอีกด้วย
    • ประกันภัยกลุ่มของพนักงาน ประกอบด้วยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ พนักงานทุกคนจะได้รับสิทธินี้เมื่อผ่านทดลองงานแล้ว โดยพนักงานจะได้รับสิทธิประกันชีวิตและประกันสุขภาพตามแผนที่บริษัทฯ กำหนด และพนักงานจะได้รับวงเงินที่สูงขึ้นตามระดับตำแหน่งของพนักงาน
    • สิทธิในการเบิกค่าทันตกรรมประจำปี ในแต่ละปีพนักงานสามารถเบิกค่าทันตกรรมซึ่งเป็นความคุ้มครองพิเศษที่บริษัทฯ จ่ายให้พนักงานเอง โดยไม่เกี่ยวกับบริษัทประกันใดๆ ซึ่งพนักงานสามารถเบิกค่าทันตกรรมได้โดยมีวงเงินเริ่มต้นปีละ 3,000 – 6,000 บาท
    • บริษัทฯ จัดสรรงบประมาณสำหรับท่องเที่ยวประจำปี ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสร้างความสนุกสนาน สร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีให้กับพนักงาน รวมทั้งให้พนักงานได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน
    • บริษัทฯ จัดสรรงบประมาณสำหรับการเลี้ยงสังสรรค์ประจำไตรมาส โดยพนักงานทุกคนสามารถเบิกเงินสำหรับการเลี้ยงสังสรรค์ได้ไตรมาสละ 1 ครั้ง และการมอบเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับพนักงานที่สามารถปฏิบัติงานได้บรรลุตามเป้าหมาย รวมทั้งมีการมอบเงินรางวัลพิเศษอื่นๆ
    • บริษัทฯ จัดให้มีทุนการศึกษาระดับปริญญาโทสำหรับพนักงานที่สนใจศึกษาต่อ โดยทางบริษัทฯ จะมีคณะกรรมการสำหรับคัดเลือกพนักงานเพื่อรับทุนการศึกษาระดับปริญญาโทตามเงื่อนไขของบริษัทฯ
    • สิทธิพิเศษสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ พนักงานทุกคนจะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโครงการของบริษัทฯ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของพนักงานและสนับสนุนให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
    กลุ่มที่ 2 สวัสดิการที่ไม่เป็นตัวเงิน
    • ตรวจสุขภาพประจำปี เนื่องด้วยบริษัทฯ มีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาล หรือคลินิกสุขภาพชั้นนำ จัดโปรแกรมตรวจสุภาพประจำปีให้กับพนักงาน
    • บริษัทฯ ได้จัดให้มีงานเลี้ยงประจำปี ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงต้นปีและกลางปี เพื่อสร้างความสนุกสนาน ให้พนักงานได้ผ่อนคลาย
    • บริษัทฯ ได้จัดเตรียมชุดยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานทุกระดับ
    • บริษัทฯ ได้จัดเตรียม Sim Card สำหรับพนักงานทุกคน เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานในการติดต่องานทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบ
    • บริษัทฯ ได้จัดให้มีการช่วยเหลือพนักงานในวาระต่างๆ เช่น ช่วยเหลือกรณีคลอดบุตร, กระเช้าเยี่ยมผู้ป่วยกรณีเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ช่วยเหลือกรณีบุคคลในครอบครัวเสียชีวิต
  • 4. การกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับสิทธิพนักงานในการมีส่วนร่วมหรือการรวมกลุ่มเจรจากับนายจ้าง

    บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะสะท้อนด้วยสวัสดิการ กิจกรรม และวัฒนธรรมในการทำงานแบบ Professional & Friendly แล้ว ยังได้มีแนวทางในการสื่อสาร ทำความเข้าใจ และรับฟังความต้องการของพนักงานในหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น

    • การจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการตาม พรบ. คุ้มครองแรงงาน ปี 2541 มาตรา 96 ที่ได้กำหนดให้สถานประกอบการที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปจะต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการสวัสดิการ ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการในการสรรหา คัดเลือกคณะกรรมการสวัสดิการ รวมไปถึงบทบาทหน้าที่ในการเป็นตัวแทนของพนักงานในการแจ้งความต้องการ และความคิดเห็นที่มีต่อการบริหารงาน นโยบาย สวัสดิการ และการดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานผ่านการประชุมคณะกรรมการเป็นประจำทุกไตรมาส
    • การทำแบบสอบถามความพึงพอใจและความผูกพันต่อองค์กร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของพนักงานในทุกระดับ ด้วยการเปิดโอกาสให้พนักงานตอบแบบสอบถามออนไลน์ซึ่งเป็นความลับระหว่างพนักงานแต่ละคนกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล โดยหลังจากที่ได้รับผลการสำรวจแล้ว บริษัทฯได้มีการดำเนินการปรับปรุงในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม สวัสดิการ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของพนักงาน
    • บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการร้องทุกข์ในกรณีที่พนักงานมีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์อันเกิดขึ้น เนื่องจากการทำงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพการทำงาน สภาพการจ้าง การบังคับบัญชา การสั่งหรือมอบหมายงาน การจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานหรือประโยชน์อื่น หรือการปฏิบัติใดที่ไม่เหมาะสมระหว่างบริษัทฯ หรือผู้บังคับบัญชาต่อพนักงานหรือระหว่างพนักงานด้วยกัน และพนักงานได้เสนอความไม่พอใจหรือความทุกข์นั้นต่อบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ จ้างได้ดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์นั้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทฯ และพนักงาน และเพื่อให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีความสุข
  • 5. มีกระบวนการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในสถานประกอบการ

    โดยบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน กล่าวคือบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและการปฏิบัติต่อพนักงานตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่ง รวมทั้งการพิจารณาในประเด็นต่างๆที่อาจจะส่งผลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ เช่น การไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเพศในการว่าจ้างพนักงาน โดยบริษัทฯ จะพิจารณาที่ความสามารถและความเหมาะสมของผู้สมัครงานเป็นหลัก เป็นต้น

  • 6. มีช่องทางร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีช่องทางในการร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยกำหนดให้มีขั้นตอนและกระบวนการ ดังนี้

    • ขอบเขตและความหมาย การร้องทุกข์/ร้องเรียน หมายถึง กรณีที่พนักงานมีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์อันเกิดขึ้น เนื่องจากการทำงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพการทำงาน สภาพการจ้าง การบังคับบัญชา การสั่งหรือมอบหมายงาน การจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานหรือประโยชน์อื่นที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกฎหมายแรงงาน หรือการปฏิบัติใดที่ไม่เหมาะสมระหว่างบริษัทฯ หรือผู้บังคับบัญชาต่อพนักงานหรือระหว่างพนักงานด้วยกัน และพนักงานได้เสนอความไม่พอใจหรือความทุกข์นั้นต่อบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ จ้างได้ดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์นั้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทฯ และพนักงาน และเพื่อให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีความสุข
    • วิธีการและขั้นตอน พนักงานที่มีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์เนื่องจากการทำงานดังกล่าวข้างต้น ควรยื่นคำร้อง ทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงหรือผู้บังคับบัญชาขั้นแรกของตนโดยเร็ว เว้นแต่เรื่องที่จะต้องร้องทุกข์นั้นเกี่ยวกับการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชาดังกล่าว เป็นต้น ให้ยื่นคำร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง
    • การสอบสวนและพิจารณา เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับคำร้องทุกข์จากพนักงานแล้ว ให้รีบดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ร้องทุกข์นั้นโดยละเอียดเท่าที่จะทำได้โดยดำเนินการด้วยตนเองหรือด้วยความช่วย เหลือจากพนักงาน ทั้งนี้พนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์จะต้องให้ข้อเท็จริงโดยละเอียดแก่ผู้บังคับบัญชาด้วย เมื่อสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์นั้น หากเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชานั้นและผู้บังคับบัญชาสามารถแก้ไขได้ก็ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แล้วแจ้งผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบพร้อมทั้งรายงานให้นายจ้างทราบด้วยหากเรื่องราวที่ร้องทุกข์นั้น เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของผู้ที่บังคับบัญชานั้น ให้ผู้บังคับบัญชาดังกล่าวเสนอเรื่องราวที่ร้องทุกข์พร้อมทั้งข้อเสนอในการแก้ไขหรือความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปตามลำดับ ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปดำเนินการตรวจสอบและ พิจารณาคำร้องทุกข์เช่นเดียวกับผู้บังคับบัญชาระดับต้นที่ได้รับการร้องทุกข์ ผู้บังคับบัญชาแต่ละชั้นต้องดำเนินการเกี่ยวกับการร้องทุกข์โดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 7 วัน
    • กระบวนการยุติข้อร้องทุกข์ เมื่อผู้บังคับบัญชาแต่ละชั้นที่ได้พิจารณาคำร้องทุกข์ ดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ที่เกิดการร้องทุกข์ และได้แจ้งให้พนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบ หากพนักงานผู้ยื่นคำร้องพอใจ ก็แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว แต่ถ้าพนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ไม่พอใจ ก็ให้ยื่นอุทธรณ์โดยกรอกข้อความที่อุทธรณ์ลงในแบบพิมพ์ที่บริษัทฯ ได้กำหนดขึ้นและยื่นต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบผลการร้องทุกข์ จากผู้บังคับบัญชาระดับต้น ผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะพิจารณาอุทธรณ์และดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ตามคำร้องทุกข์และแจ้งผลการพิจารณาดำเนินการให้พนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบภายใน 15 วัน ทั้งนี้คำตัดสินของผู้บังคับบัญชาสูงสุด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายถือเป็นสิ้นสุด และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องถือปฏิบัติตาม
    • ความคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการร้องทุกข์ที่กระทำไปโดยสุจริตใจ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่ทั้งบริษัทและพนักงานเป็นส่วนรวม ดังนั้น พนักงานที่ผู้ยื่นคำร้องทุกข์ บริษัทผู้ให้ถ้อยคำ ให้ข้อมูล ให้ข้อเท็จจริงหรือให้พยานหลักฐานใดเกี่ยวกับการร้องทุกข์ และพนักงานที่เป็นผู้พิจารณาคำร้องทุกข์ เมื่อได้กระทำโดยสุจริตใจ แม้จะเป็นเหตุให้เกิดข้อยุ่งยากประการใดแก่บริษัท ก็ย่อมได้รับการประกันจากบริษัทว่าจะไม่เป็นเหตุหรือถือเป็นเหตุที่จะเลิกจ้าง ลงโทษ หรือดำเนินการใดที่เกิดผลร้ายต่อพนักงานดังกล่าว
  • 7. สุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน

    บริษัทฯ ได้มีการกำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและได้บังคับใช้กับพนักงานรวมทั้งผู้รับเหมาในงานต่างๆ อย่างเคร่งครัด เนื่องจากบริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างให้จิตสำนึกด้านความปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในงาน (Safety in Process) และยังเป็นสิ่งที่ต้องกระทำเพื่อให้เกิดการทำงานที่ปลอดภัยที่ยั่งยืนอีกด้วย รวมถึงแทรกอยู่ในระบบความคิดของการทำงานเสมอ บริษัทฯ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพ ในการดูแลความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานในสำนักงานและหน้างาน บริษัทฯ จัดให้มีการปลูกฝังทัศนคติและความเข้าใจในการบริหารและดูแลงานความปลอดภัยให้กับพนักงานทุกระดับด้วย เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในการทำงาน และรับทราบถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมทั้งจากหน่วยงานของตนเองและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง

    บริษัทฯ ได้สื่อสารเรื่อง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ในการทำงานโดยผ่านหลายช่องทางเช่นเสียงตามสาย , บอร์ดประชาสัมพันธ์ , Website , Facebook และ Line เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานได้ตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติงานโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ซึ่งจะเห็นได้จากการไม่พบสถิติการบาดเจ็บอันเกิดจากการทำงานในสำนักงานและหน้างาน นอกจากนั้นแล้ว ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและต่อต้านยาเสพติด โดยการสุ่มตรวจสารเสพติดในผู้ปฏิบัติงานเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดีอีกด้วย และบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาวกับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการทำให้สำนักงานเป็นสำนักงานปลอดยาเสพติดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

    บริษัทฯ ได้กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลรับผิดชอบด้านความปลอดภัยของโครงการก่อสร้างต่างๆ จัดทำรายงานด้านความปลอดภัยประจำโครงการ เพื่อนำเสนอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบและประเมินความปลอดภัยในด้านต่างๆ เช่น ความปลอดภัยในการก่อสร้างอาคาร ความสะอาดและสุขอนามัยภายในโครงการและชุมชนข้างเคียง ซึ่งจะมีการประเมินอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยให้คุณและโทษกับผู้รับเหมา และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รวมรวมผลการประเมิน เพื่อนำผลการประเมินที่ได้ไปพัฒนา แก้ไข และปรับปรุงนโยบายด้านความปลอดภัยในอนาคต

    นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้พนักงาน โดยมุ่งเน้นให้พนักงานได้มีความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 โดยบริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ภายในสำนักงาน ภายใต้ชื่อ Origin Heart Office (OHO) เพื่อให้บริเวณสถานที่ทำงานและสภาพแวดล้อมมีบรรยากาศที่ดีเหมาะต่อการปฏิบัติงาน อีกทั้งบริษัทยังได้คำนึงถึงสุขภาพอนามัย ความสะอาดและความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงาน รวมถึงสวัสดิภาพที่ดีของพนักงาน และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งบริษัทได้มีแนวทางในการจัดการภายในสำนักงานใหญ่รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยเพิ่มเติม ดังนี้

    • บริษัทฯ จัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายภายในสำนักงานช่วงเย็นหลังเลิกงาน โดยได้ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญในกิจกรรมต่างๆมาให้ความรู้ และนำการออกกำลังกาย เช่น การเล่นโยคะ การเต้นซุมบ้า หรือการเต้นแอโรบิคเพื่อสุขภาพ
    • บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสี มีการแข่งขันเก็บคะแนนในรายการต่างๆที่ส่งเสริมให้พนักงานได้ออกกำลังกาย มีการจัดกิจกรรมกีฬาสีประจำปี
    • บริษัทฯ ได้จัดให้มีการนวดผ่อนคลาย คอ บ่า ไหล่ สำหรับพนักงาน เพื่อให้พนักงานได้ผ่อนคลายจากความเครียดจากการทำงาน ลดอัตราการเกิดออฟฟิศซินโดรม โดยบริษัทฯ ได้ว่าจ้างพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดผ่อนคลาย คอ บ่า ไหล่ โดยเฉพาะ มาประจำที่สำนักงานใหญ่เพื่อบริการนวดให้กับพนักงาน
    • บริษัทฯ จัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัยมากที่สุด ได้แก่ การควบคุมแสงสว่างให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานของพนักงาน ออกนโยบายห้ามวางสิ่งกีดขวางบริเวณทางหนีไฟเพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นภายในอาคาร การจัดโซนสำหรับรับประทานอาหาร และจัดเก็บอาหารเพื่อสุขอนามัยที่ดี
    • การจัดการด้านความสะอาด โดยบริษัทฯ มีการจัดให้ทำความสะอาดบริเวณสำนักงานทุกวันทำงานช่วงเช้า และเย็น รวมถึงการจัดการขยะ ไม่ให้มีขยะที่สามารถเน่าเสียค้างอยู่ในบริเวณสำนักงานเกิน 24 ชั่วโมง